ปรัชญา วิเศษ 04/12/2025

รีวิว Fusion Markets โบรกเกอร์ต้นทุนต่ำ ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทยสาย SCALPING และ EA

ปรัชญา วิเศษ

Fusion Markets โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ – ภาพรวมสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025

Fusion Markets เป็นโบรกเกอร์จากออสเตรเลียที่เข้าสู่ตลาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่สร้างชื่อเสียงได้เร็วจากจุดขายสำคัญคือ “สเปรดต่ำมาก + ค่าคอมมิชชันต่ำ” กลุ่มลูกค้าหลักของ Fusion Markets จึงเป็นเทรดเดอร์สายต้นทุน สาย Scalping และผู้ใช้ EA สำหรับเทรดเดอร์ไทย Fusion Markets มักถูกมองว่าเป็นทางเลือกในกลุ่มโบรกเกอร์ ECN ที่เน้นความคุ้มค่าด้านต้นทุนมากกว่าการตลาดและโบนัส

ในปี 2025 Fusion Markets ยังคงรักษาภาพลักษณ์โบรกเกอร์ “ต้นทุนต่ำจริง เน้นเทรดจริง” ด้วยการให้บริการแพลตฟอร์มหลักคือ MT4, MT5 และการเชื่อมต่อกับ TradingView เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยที่มีพื้นฐานและต้องการโบรกเกอร์ไว้เปรียบเทียบต้นทุนกับเจ้าใหญ่ในตลาด

สรุปจุดยืนของ Fusion Markets แบบสั้น ๆ
  • โบรกเกอร์สายต้นทุนต่ำแบบ ECN/STP
  • สเปรดและค่าคอมแข่งขันรุนแรง
  • ไม่ใช่โบรกเกอร์สายโบนัส
  • เหมาะกับ Scalping และ EA
  • เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานการเทรดพอสมควร

การกำกับดูแลและความปลอดภัยของ Fusion Markets

Fusion Markets ดำเนินงานภายใต้บริษัท Fusion Markets Pty Ltd ซึ่งจดทะเบียนและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงาน ASIC (ออสเตรเลีย) สำหรับลูกค้านอกออสเตรเลียจะอยู่ภายใต้บริษัทลูกในเขตอำนาจศาลอื่นที่ให้เงื่อนไขเลเวอเรจสูงกว่า ลูกค้าไทยส่วนใหญ่มักถูกจัดไปอยู่ในบริษัทลูกนอกยุโรปเพื่อให้สามารถใช้เลเวอเรจสูงได้

Fusion Markets ใช้ระบบแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท (Segregated Account) และมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลตามมาตรฐานโบรกเกอร์สากล อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ไทยควรเข้าใจความแตกต่างของระดับการคุ้มครองระหว่างใบอนุญาตของแต่ละบริษัทลูก และไม่ควรมองว่า “ใบอนุญาตที่ดี” จะช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจผิดวิธีได้

ข้อควรรู้ด้านความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ไทย
  • ตรวจสอบบริษัทลูกที่คุณเปิดบัญชีทุกครั้ง
  • อ่านเงื่อนไขเลเวอเรจและ Negative Balance Protection ให้ชัด
  • จัดการความเสี่ยงด้วยตัวเองเป็นหลัก ไม่พึ่งชื่อโบรกเกอร์อย่างเดียว

ประเภทบัญชีของ Fusion Markets

Fusion Markets ออกแบบโครงสร้างบัญชีให้เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน โดยยึดแนวคิด “เลือกตามต้นทุน” กลุ่มผู้ใช้งานในไทยมักเลือกใช้อยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ Zero Account และ Classic Account

  • Zero Account – บัญชีสเปรดดิบเริ่มใกล้ 0.0 pip และคิดค่าคอมมิชชันแยก เหมาะกับ Scalping, Day Trading และผู้ใช้ EA ที่ต้องการคุมต้นทุนอย่างแม่นยำ
  • Classic Account – บัญชีสเปรดรวมค่าบริการ ไม่มีค่าคอมมิชชันแยก ใช้งานง่ายกว่า เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการคำนวณต้นทุนหลายส่วน

เทรดเดอร์ไทยสายต้นทุนมักเริ่มที่ Zero Account ด้วยล็อตเล็กก่อน เพื่อดูสเปรดจริงในช่วงเวลาที่ตนเองเทรด ส่วนผู้ที่เน้นความง่ายและไม่เทรดถี่มาก Classic Account ก็ยังเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป

ต้นทุนการเทรดและสเปรดของ Fusion Markets

จุดขายหลักของ Fusion Markets คือ “ต้นทุนต่ำมาก” โดยเฉพาะใน Zero Account ซึ่งสเปรดคู่เงินหลักสามารถลงมาใกล้ 0.0 pip ในช่วงสภาพคล่องปกติ เมื่อรวมค่าคอมมิชชันแล้ว ต้นทุนเฉลี่ยต่อรอบยังอยู่ในระดับที่แข่งขันได้กับโบรกเกอร์ ECN ชั้นนำ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงข่าวแรงหรือช่วงที่สภาพคล่องลดลง สเปรดยังสามารถขยายตัวและเกิด Slippage ได้เช่นเดียวกับโบรกเกอร์ ECN ทั่วไป เทรดเดอร์ไทยจึงควรจดบันทึกต้นทุนจริงจากประวัติการเทรดของตนเอง มากกว่าดูเพียงตัวเลขสเปรดขั้นต่ำจากหน้าเว็บ

วิธีประเมินต้นทุนกับ Fusion Markets อย่างใกล้ความจริง
  • ดูสเปรดเฉลี่ยช่วงเวลาที่คุณเทรดจริง
  • รวมสเปรด + ค่าคอมเป็นต้นทุนต่อดีล
  • เปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นในกลุ่ม ECN โดยใช้ข้อมูลจากบัญชีจริง

แพลตฟอร์มการเทรดของ Fusion Markets สำหรับผู้ใช้ในไทย

Fusion Markets รองรับแพลตฟอร์มหลัก 3 ระบบ ได้แก่ MT4, MT5 และ TradingView โดยทั้งหมดเชื่อมต่อเข้ากับระบบราคาของโบรกเกอร์โดยตรง สำหรับเทรดเดอร์ไทย จุดเด่นไม่ได้อยู่ที่ “มีแพลตฟอร์มให้เลือกเยอะ” แต่อยู่ที่ “ความเสถียรของการเชื่อมต่อในช่วงตลาดผันผวน” ซึ่งจากประสบการณ์ผู้ใช้ในไทย ระบบของ Fusion Markets จัดว่าอยู่ในระดับกลางถึงดีเมื่อเทียบกับกลุ่มโบรกเกอร์สาย ECN

  • MT4 – เหมาะกับสาย EA และ Scalping แบบคลาสสิก ระบบเบา ใช้งานเสถียร
  • MT5 – รองรับ Timeframe และเครื่องมือวิเคราะห์เพิ่ม เหมาะกับการเทรดหลายสินทรัพย์
  • TradingView – เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยสายวิเคราะห์กราฟขั้นสูงที่ต้องการใช้ Indicator และ Layout จาก TradingView จริง

ข้อสังเกตสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทยคือ การเทรดผ่าน TradingView กับ Fusion Markets ยังเหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานระบบคำสั่งและการเชื่อมต่ออยู่แล้ว มือใหม่อาจยังรู้สึกว่าขั้นตอนซับซ้อนกว่า MT4/MT5 เล็กน้อย

มุมมองใช้งานจริง: ถ้าเน้น EA และความเสถียร → MT4 / MT5 เหมาะกว่า ถ้าเน้นวิเคราะห์กราฟเชิงลึก → TradingView ให้ความยืดหยุ่นสูงกว่า

การฝากและถอนเงินของ Fusion Markets สำหรับเทรดเดอร์ไทย

Fusion Markets รองรับการฝาก–ถอนผ่านหลายช่องทาง เช่น การโอนผ่านธนาคารระหว่างประเทศ บัตรเครดิต/เดบิต และ e-Wallet บางประเภท โดยประสบการณ์จริงของผู้ใช้ในไทยพบว่า การฝากเงินเข้าระบบมักทำได้รวดเร็วและไม่มีค่าธรรมเนียมจากทางโบรกเกอร์ ส่วนการถอนเงินจะขึ้นอยู่กับช่องทางที่เลือก โดยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 1–3 วันทำการ

จุดที่เทรดเดอร์ไทยมักต้องระวังคือ ข้อมูลบัญชีธนาคารที่ใช้ถอนเงินต้องตรงกับชื่อผู้สมัครทุกตัวอักษร หากไม่ตรง ระบบจะปฏิเสธรายการถอนทันที ทำให้ต้องส่งคำขอใหม่ ซึ่งทำให้เวลาโดยรวมของการถอนยาวขึ้น

คำแนะนำสำคัญสำหรับผู้ใช้ไทย:
  • อย่าใช้ชื่อเล่นหรือชื่อที่ไม่ตรงกับบัตรประชาชนในการเปิดบัญชี
  • ตรวจสอบ SWIFT Code และที่อยู่ธนาคารก่อนถอนเงินผ่าน International Transfer
  • เลี่ยงการถอนเงินช่วงวันหยุดหรือปลายสัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้เวลาการโอนล่าช้า

โดยรวมแล้ว ระบบฝาก–ถอนของ Fusion Markets ถือว่า “เสถียรและตรงไปตรงมา” แต่ยังไม่ถึงระดับ “เร็วมาก” แบบโบรกเกอร์ที่มีระบบ Local Payment สำหรับคนไทยโดยเฉพาะ

โบนัสและโปรโมชันของ Fusion Markets ในปี 2025

Fusion Markets เป็นโบรกเกอร์สาย “ต้นทุนล้วน” ไม่ได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นโบรกเกอร์สายแจกโบนัส ในปี 2025 ไม่มีโปรโมชั่นลักษณะโบนัสเงินฝาก (Deposit Bonus) แบบที่เทรดเดอร์ไทยคุ้นเคยจากโบรกเกอร์สายการตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขายส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของ:

  • ส่วนลดค่าคอมบางช่วงเวลา
  • กิจกรรมสำหรับลูกค้าที่มีปริมาณการเทรดสูง
  • แคมเปญร่วมกับพาร์ตเนอร์เทรดบางราย

สำหรับเทรดเดอร์ไทยที่ต้องการ “โบนัสมาร์จินเสริมเพื่อเพิ่มเลเวอเรจทางอ้อม” Fusion Markets จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการต้นทุนต่ำแบบโปร่งใส การไม่มีโบนัสกลับเป็นข้อดีด้านความชัดเจนของต้นทุน

สรุปด้านโบนัส: ไม่มีโบนัสเงินฝากแบบจริงจัง → เน้นต้นทุนล้วน เหมาะกับสายคำนวณกำไรจริง

ประสบการณ์ใช้งานจริงของ Fusion Markets จากมุมมองเทรดเดอร์ไทย

จากประสบการณ์ของผู้ใช้งานในไทย Fusion Markets ถูกเลือกใช้เป็น “โบรกเกอร์เสริม” มากกว่าเป็นโบรกเกอร์หลัก เหตุผลหลักคือสเปรดและค่าคอมที่ต่ำจริง โดยเฉพาะในคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD, GBP/USD ซึ่งเหมาะกับการเทรดถี่ แต่ระบบหลังบ้านและการสื่อสารยังไม่เป็นมิตรกับผู้เริ่มต้น

ด้านการฝาก–ถอน กลุ่มผู้ใช้ไทยพบว่า การฝากมักรวดเร็ว ส่วนการถอนใช้เวลาประมาณ 1–3 วันทำการ ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เกิดจากเอกสารยืนยันตัวตนหรือชื่อบัญชีธนาคารไม่ตรงกับชื่อผู้สมัคร ไม่ได้เกิดจากการอั้นถอนหรือปัญหาสภาพคล่องของโบรกเกอร์โดยตรง

ระบบซัพพอร์ตภาษาไทยยังมีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ที่ทำตลาดในไทยโดยตรง ผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยต้องติดต่อผ่านภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ

ภาพรวมประสบการณ์จริง:
ดีด้านต้นทุนและระบบราคา / ปานกลางด้านซัพพอร์ต / ไม่เหมาะกับมือใหม่ 0 พื้นฐาน

Fusion Markets เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยแบบไหน

เมื่อดูจากโครงสร้างบัญชี ต้นทุน และแพลตฟอร์มทั้งหมด Fusion Markets ไม่ได้ทำตลาดในไทยแบบโบรกเกอร์รายใหญ่ แต่มุ่งเน้นความคุ้มค่าด้านต้นทุนเป็นหลัก จึงเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้งานที่ “รู้ว่าต้องการอะไรจากโบรกเกอร์” มากกว่าผู้เริ่มต้นแบบไม่มีพื้นฐาน

  • สาย Scalping / Day Trading ที่ต้องการสเปรดดิบและค่าคอมต่ำ
  • ผู้ใช้ EA บน MT4 และ MT5 ที่ต้องการความเสถียรและค่าบริการชัดเจน
  • เทรดเดอร์ที่ต้องการ “โบรกเกอร์เสริม” ไว้กระจายต้นทุนและลดความเสี่ยงด้านราคา
  • ผู้ที่ต้องการเทรดบน TradingView แบบเชื่อมต่อคำสั่งโดยตรง
ไม่เหมาะกับ:
- ผู้ที่ต้องการโบนัสหรือทุนเสริมจากโบรกเกอร์
- มือใหม่ที่ต้องการคู่มือภาษาไทยและการสอนแบบใกล้ชิด
- ผู้ที่เน้นระบบฝาก–ถอนแบบ Local แบบโบรกเกอร์ที่ทำตลาดในไทยโดยตรง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Fusion Markets

ถาม: Fusion Markets ปลอดภัยไหม?
ตอบ: ดำเนินการภายใต้การกำกับของ ASIC (ออสเตรเลีย) และบริษัทลูกนอกยุโรป ใช้ระบบแยกเงินลูกค้า แต่การคุ้มครองขึ้นกับบริษัทลูกที่คุณสังกัด
ถาม: Fusion Markets มีโบนัสเงินฝากไหม?
ตอบ: ไม่มี นโยบายคือโบรกเกอร์ต้นทุนต่ำแบบโปร่งใส ไม่เน้นโปรโมชั่นล่อใจ
ถาม: ใช้ EA ได้ไหม?
ตอบ: ได้เต็มรูปแบบ ทั้ง MT4 และ MT5 และถือเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมจากสาย EA
ถาม: ถอนเงินช้าไหม?
ตอบ: โดยเฉลี่ย 1–3 วันทำการ ขึ้นกับช่องทางธนาคาร ปัญหาที่พบมักเกี่ยวกับชื่อบัญชีไม่ตรงกันมากกว่าความล่าช้าจากโบรกเกอร์
ถาม: เหมาะกับมือใหม่ไหม?
ตอบ: ไม่เหมาะกับมือใหม่ 0 พื้นฐาน แต่เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ระดับหนึ่งและต้องการต้นทุนการเทรดต่ำ

สรุปรีวิว Fusion Markets ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย

Fusion Markets ในปี 2025 เป็นโบรกเกอร์ที่มีจุดยืนชัดเจนในกลุ่ม “ต้นทุนต่ำแบบ ECN จริง” ไม่เน้นการตลาด ไม่เน้นโบนัส แต่เน้นโครงสร้างราคาที่โปร่งใส เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยที่มีพื้นฐานการเทรดอยู่แล้ว ต้องการโบรกเกอร์สำหรับ Scalping หรือใช้งาน EA อย่างจริงจัง

สำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการระบบช่วยเหลือภาษาไทยเต็มรูปแบบ Fusion Markets อาจยังไม่ตอบโจทย์มากนัก แต่หากมองในมุมของ “โบรกเกอร์เสริมเพื่อกระจายความเสี่ยงด้านต้นทุน” Fusion Markets ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ควรมีไว้ในลิสต์เปรียบเทียบ

บทความที่เกี่ยวข้อง

รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว FOREX.com โบรกเกอร์สหรัฐฯ เน้นมาตรฐานและความปลอดภัย ปี 2025

FOREX.com เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ระดับสากลภายใต้กลุ่ม StoneX Group Inc. บริษัทการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ และมีประวัติการดำเนินงานยาวนานกว่า 20 ปี ให้บริการเทรดฟอเร็กซ์ ดัชนี หุ้น CFD สินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์อื่น ๆ รวมมากกว่า 5,000 สัญลักษณ์ โดยเน้นภาพลักษณ์ “โบรกเกอร์สายมาตรฐานตะวันตก” ที่ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบ ความโปร่งใส และคุณภาพแพลตฟอร์มมากกว่าการแข่งขันด้วยโบนัสหรือเลเวอเรจสูง

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →
รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว Saxo Bank โบรกเกอร์สายหุ้นและการลงทุนระดับพรีเมียม ปี 2025

Saxo Bank เป็นธนาคารเพื่อการลงทุนจากเดนมาร์กที่ขยายบริการสู่การเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์แบบครบวงจร ทั้งฟอเร็กซ์ หุ้นต่างประเทศ ดัชนี CFD พันธบัตร ETF ฟิวเจอร์ส และผลิตภัณฑ์ลงทุนอีกจำนวนมาก จุดต่างสำคัญของ Saxo Bank เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ทั่วไปคือ บริษัทมีสถานะเป็น “ธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตเต็มรูปแบบ” ไม่ใช่แค่โบรกเกอร์ในเชิงเทคนิค ทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมอยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินสากล มากกว่าบริษัทโบรกเกอร์ขนาดเล็ก

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →
รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว XTB 2025: โบรกเกอร์ที่เหมาะกับการเทรดฟอเร็กซ์และ CFDs สำหรับเทรดเดอร์ไทย

XTB เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 และมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในการให้บริการเทรดทั่วโลก จุดเด่นของ XTB คือการเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่ทันสมัย ตัวเลือกบัญชีที่หลากหลาย และการเลือกตลาดที่ครอบคลุม XTB ได้รับความนิยมในกลุ่มเทรดเดอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย เนื่องจากมีการควบคุมที่เข้มงวดและบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม

รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว IG โบรกเกอร์ระดับโลก ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย

IG หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ IG Markets เป็นโบรกเกอร์จากสหราชอาณาจักรที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1974 ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก จุดขายหลักของ IG ไม่ใช่โบนัสหรือเลเวอเรจสูงแบบโบรกเกอร์สายเอเชีย แต่คือความแข็งแรงด้านการกำกับดูแล ความโปร่งใสของต้นทุน และผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย ตั้งแต่ฟอเร็กซ์ ดัชนี หุ้น CFD สินค้าโภคภัณฑ์ ไปจนถึงคริปโตบางประเภท

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →
รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

AvaTrade 2025 รีวิว: การกำกับดูแล ความปลอดภัย และข้อได้เปรียบในการเทรด

AvaTrade is a globally recognized forex and CFD broker established in 2006. With a presence in various regions, including Southeast Asia and Thailand, AvaTrade stands out for its robust regulatory framework and comprehensive trading options. The broker is regulated by multiple international bodies, ensuring a high level of security for traders. AvaTrade's appeal lies in its wide range of account types, user-friendly platforms, and competitive trading conditions.

รีวิวโบรกเกอร์ 04/12/2025

รีวิว FP Markets โบรกเกอร์สเปรดต่ำ ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย

FP Markets เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD สัญชาติออสเตรเลียที่อยู่ในตลาดมามากกว่า 20 ปี จุดขายหลักคือการเป็นโบรกเกอร์สาย ECN/Raw ที่ให้สเปรดต่ำ เลเวอเรจสูงสุดถึงประมาณ 1:500 ภายใต้หน่วยงานกำกับดูแลระดับสากลหลายแห่ง เช่น ASIC, CySEC และหน่วยงานอื่นในกลุ่มบริษัท ปัจจุบัน FP Markets มีเว็บไซต์และซัพพอร์ตภาษาไทย รวมถึงช่องทางฝาก–ถอนเป็นสกุล THB ผ่านธนาคารไทยและผู้ให้บริการชำระเงินในภูมิภาค ทำให้เข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025

ปรัชญา วิเศษ
อ่านต่อ →