FP Markets โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD – ภาพรวมสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025
FP Markets เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD สัญชาติออสเตรเลียที่อยู่ในตลาดมามากกว่า 20 ปี จุดขายหลักคือการเป็นโบรกเกอร์สาย ECN/Raw ที่ให้สเปรดต่ำ เลเวอเรจสูงสุดถึงประมาณ 1:500 ภายใต้หน่วยงานกำกับดูแลระดับสากลหลายแห่ง เช่น ASIC, CySEC และหน่วยงานอื่นในกลุ่มบริษัท ปัจจุบัน FP Markets มีเว็บไซต์และซัพพอร์ตภาษาไทย รวมถึงช่องทางฝาก–ถอนเป็นสกุล THB ผ่านธนาคารไทยและผู้ให้บริการชำระเงินในภูมิภาค ทำให้เข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025
ภาพรวมแล้ว FP Markets ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโบรกเกอร์ “ต้นทุนต่ำ + แพลตฟอร์มครบ” เพราะรองรับทั้ง MT4, MT5, cTrader และ TradingView รวมถึง Iress สำหรับผู้ที่เทรดหุ้นต่างประเทศระดับมืออาชีพ จุดนี้ทำให้ FP Markets กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกพูดถึงบ่อยเมื่อพูดเรื่องโบรกเกอร์สเปรดต่ำและรองรับกลยุทธ์ที่อ่อนไหวต่อค่าธรรมเนียมอย่าง Scalping และ EA
- โบรกเกอร์จากออสเตรเลีย อายุเกิน 20 ปี มีหลายใบอนุญาตระดับสากล
- มีทั้งบัญชี Standard (ไม่คิดค่าคอมมิชชัน) และ Raw ECN (สเปรด 0.0 + ค่าคอม)
- รองรับ MT4, MT5, cTrader, TradingView และ Iress สำหรับหุ้น/CFD ระดับสูง
- มีเว็บไซต์ภาษาไทย ซัพพอร์ตหลายภาษา และรองรับการฝาก THB ผ่านช่องทางท้องถิ่นสำหรับลูกค้าไทย
- เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยที่มองหาโบรกเกอร์สเปรดต่ำ ใช้ EA/Scalping และต้องการแพลตฟอร์มหลากหลาย
การกำกับดูแลและความปลอดภัยของ FP Markets
FP Markets ทำงานภายใต้โครงสร้าง “กลุ่มบริษัท” โดยมีใบอนุญาตหลักจาก ASIC (ออสเตรเลีย) และ CySEC (ไซปรัส) รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ เช่น FSCA, FSA (Seychelles), CMA และ FSC แล้วแต่เขตให้บริการ สำหรับลูกค้าไทย ส่วนใหญ่มักจะถูกดูแลผ่านบริษัทนอกออสเตรเลียที่ให้เลเวอเรจสูงถึง 1:500 เพื่อแข่งขันกับโบรกเกอร์ต่างประเทศรายอื่นในตลาดเอเชีย
เงินทุนของลูกค้าจะถูกเก็บในบัญชีแยกจากเงินของบริษัท (Segregated Accounts) และมีมาตรการจัดการความเสี่ยงด้านสภาพคล่องผ่านผู้ให้สภาพคล่องหลายราย อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ไทยต้องเข้าใจว่า การที่โบรกเกอร์มีใบอนุญาตระดับสากล ไม่ได้แปลว่ามีใบอนุญาตโดยตรงจากหน่วยงานกำกับของไทย หากมีข้อพิพาททางกฎหมายจะต้องอ้างอิงตามประเทศที่บริษัทสังกัดอยู่เป็นหลัก
- บัญชีของคุณถูกเปิดภายใต้บริษัทลูกในเขตอำนาจใด (ASIC, CySEC หรือ SVG ฯลฯ)
- เลเวอเรจสูงสุดที่ได้รับ กับระดับการป้องกันยอดติดลบ (Negative Balance Protection)
- เงื่อนไขทางกฎหมายและข้อจำกัดสำหรับลูกค้าไทย ในกรณีมีข้อร้องเรียนหรือข้อพิพาท
ประเภทบัญชีเทรดของ FP Markets
สำหรับสายฟอเร็กซ์บน MT4/MT5 และ cTrader โครงสร้างบัญชีของ FP Markets ค่อนข้างตรงไปตรงมา คือมี 2 แบบหลัก ได้แก่ บัญชี Standard และบัญชี Raw ทั้งสองแบบใช้เงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นราว 100 ดอลลาร์หรือเทียบเท่า และสามารถเลือกสกุลเงินพื้นฐานได้หลายสกุล รวมถึง THB สำหรับลูกค้าในภูมิภาคเอเชียบางส่วน
- บัญชี Standard (MT4/MT5/cTrader) – ไม่คิดค่าคอมมิชชัน ค่าธรรมเนียมทั้งหมดรวมอยู่ในสเปรด สเปรดคู่หลักเริ่มต้นราว 1.0 pip เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่–ระดับกลางที่อยากคุมต้นทุนแบบเข้าใจง่าย
- บัญชี Raw (MT4/MT5/cTrader/TradingView) – สเปรดเริ่มต้นจาก 0.0 pip แล้วบวกค่าคอมมิชชันราว 6 ดอลลาร์ต่อรอบ/ล็อตมาตรฐาน เหมาะมากสำหรับสาย Scalping และ EA ที่ต้องการต้นทุนต่อออเดอร์ต่ำที่สุด
- บัญชีอิสลาม (Islamic/Swap-free) – ให้บริการบนบัญชีฟอเร็กซ์บางประเภท โดยเปลี่ยนค่าดอกเบี้ย Swap เป็นค่า Admin Fee แทน เหมาะกับผู้ที่ต้องการเทรดตามหลักการ Sharia
ต้นทุนการเทรดและสเปรดของ FP Markets
จุดเด่นที่ทำให้ FP Markets ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโบรกเกอร์ “ต้นทุนต่ำ” คือสเปรดของบัญชี Raw ECN ที่เริ่มต้นจาก 0.0 pip โดยจะเก็บค่าคอมมิชชันรอบละประมาณ 6 ดอลลาร์ต่อล็อตมาตรฐาน ซึ่งเมื่อรวมแล้วต้นทุนต่อรอบเทรดยังถือว่าแข่งขันได้กับโบรกเกอร์ ECN ชั้นนำเจ้าอื่นในตลาด
บัญชี Standard แม้สเปรดจะเริ่มต้นสูงกว่า (ราว 1.0 pip ในคู่หลัก) แต่ไม่มีค่าคอมมิชชัน ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ไม่อยากมานั่งคำนวณค่าคอมเพิ่มเติม บางครั้งถ้าคุณเทรดไม่ถี่มาก บัญชี Standard ก็ไม่ได้แพงกว่าอย่างที่คิด ส่วนต้นทุนอื่น ๆ เช่นค่าธรรมเนียมฝาก–ถอน FP Markets โดยทั่วไปจะไม่คิดค่าธรรมเนียมฝั่งโบรกเกอร์ แต่ค่าธรรมเนียมจากธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินยังคงมีตามปกติ
- บันทึกสเปรดจริงในช่วงเวลาที่คุณเทรดบ่อย โดยเฉพาะคู่ที่ใช้หนัก เช่น XAUUSD, EURUSD
- รวม “สเปรด + ค่าคอมมิชชัน” ต่อรอบเข้า–ออก เพื่อดูต้นทุนจริงก่อนเลือกบัญชี
- ทดสอบดู Slippage ในช่วงข่าวสำคัญ ถ้ากลยุทธ์ของคุณต้องผ่านช่วงเวลาข่าวแรงเป็นประจำ
แพลตฟอร์มการเทรดของ FP Markets
FP Markets ถือว่าให้แพลตฟอร์มค่อนข้างครบสำหรับเทรดเดอร์ไทยในปี 2025 ทั้ง MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), cTrader, TradingView และ Iress สำหรับหุ้น/CFD โดยแพลตฟอร์มหลักที่คนไทยใช้กันมากที่สุดยังคงเป็น MT4/MT5 แต่การมี cTrader และ TradingView เพิ่มเข้ามา ทำให้โบรกเกอร์ตอบโจทย์เทรดเดอร์ที่ต้องการประสบการณ์อินเตอร์เฟซที่ทันสมัยขึ้น
- MT4/MT5 – เหมาะกับสาย EA, อินดิเคเตอร์เสริม และเทรดเดอร์ทั่วไปที่คุ้นเคยอยู่แล้ว มีเครื่องมือวิเคราะห์ครบและรองรับ Timeframe หลายแบบ
- cTrader – อินเตอร์เฟซทันสมัยกว่า MT4/MT5 เล็กน้อย ฟังก์ชัน Depth of Market ชัดเจน เหมาะกับสาย Scalping และคนที่อยากเห็นข้อมูลสภาพคล่องเชิงลึก
- TradingView – ใช้งานกราฟและเครื่องมือวิเคราะห์ของ TradingView แล้วเชื่อมคำสั่งผ่าน FP Markets โดยเฉพาะบัญชี Raw ที่รองรับ TradingView ทำให้สะดวกสำหรับคนที่ใช้ TradingView เป็นหลักอยู่แล้ว
- Iress – แพลตฟอร์มสำหรับเทรดหุ้นและ CFD หุ้นแบบมืออาชีพ เหมาะกับคนที่ต้องการฟังก์ชันลึกด้านหุ้นมากกว่าฟอเร็กซ์
การฝากและถอนเงินของ FP Markets สำหรับผู้ใช้ไทย
FP Markets รองรับช่องทางฝาก–ถอนค่อนข้างหลากหลาย ทั้งบัตรเครดิต/เดบิต โอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศ e-wallets อย่าง Skrill, Neteller, PayPal ไปจนถึงคริปโต และในภูมิภาคเอเชียรวมถึงไทย ยังมีช่องทางฝาก THB ผ่านธนาคารท้องถิ่น หรือผู้ให้บริการชำระเงินภูมิภาค เช่น PlusDebit, XPay ฯลฯ ซึ่งช่วยลดค่าธรรมเนียมและทำให้การฝากเงินรวดเร็วขึ้นสำหรับคนไทย
โดยทั่วไป โบรกเกอร์จะไม่คิดค่าธรรมเนียมฝาก–ถอนฝั่ง FP Markets เอง แต่ค่าธรรมเนียมของธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินยังคงมีอยู่ และเวลาการถอนมักอยู่ที่ประมาณ 1–3 วันทำการ ในกรณีถอนกลับไปยังบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ เทรดเดอร์ไทยจึงควรวางแผนการถอนล่วงหน้า และทดสอบถอนยอดเล็กก่อนเสมอเมื่อเริ่มใช้โบรกเกอร์ใหม่
- ใช้ชื่อ–นามสกุลให้ตรงกับบัญชีธนาคารทุกตัวอักษร เพื่อลดโอกาสการตีกลับของคำขอถอน
- ทดลองถอนยอดเล็กก่อน เมื่อเริ่มใช้โบรกเกอร์ใหม่หรือเปลี่ยนวิธีการถอน
- หากใช้ THB ฝากผ่านช่องทางท้องถิ่น ให้ตรวจสอบเรทแลกเปลี่ยนและเงื่อนไขขั้นต่ำของแต่ละช่องทางด้วย
โบนัสและโปรโมชันของ FP Markets ในปี 2025
FP Markets ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่ม “โบรกเกอร์สายโบนัสจัดหนัก” แบบโบรกเกอร์เอเชียบางเจ้า โปรโมชันที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะเครดิตบางส่วน หรือสิทธิพิเศษด้านเครื่องมือเทรด เช่น VPS ฟรีเมื่อมียอดฝากขั้นต่ำ หรือเทรดครบตามปริมาณล็อตที่กำหนด มากกว่าจะเป็นโบนัสไม่ต้องฝากหรือโบนัสเงินฝากเปอร์เซ็นต์สูง
ข้อดีของโครงสร้างแบบนี้คือ เงื่อนไขโดยรวมจะไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่อง “ข้อกำหนดล็อตเทรดเพื่อปลดล็อกโบนัส” แต่สำหรับเทรดเดอร์ไทยที่คุ้นเคยกับโบรกเกอร์ที่แจกโบนัสบ่อย ๆ FP Markets อาจดู “เรียบ ๆ” ในแง่โปรโมชันเมื่อเทียบกัน
- เหมาะกับคนที่ไม่ได้เลือกโบรกเกอร์จากโบนัสเป็นอันดับแรก
- ลดความเสี่ยงจากการเทรดเพียงเพื่อทำล็อตให้ถึงเงื่อนไขของโบนัส
- ถ้าคุณต้องการใช้โบนัสช่วยเพิ่มขนาดพอร์ต อาจต้องพิจารณาโบรกเกอร์อื่นที่เน้นโปรโมชันมากกว่า
ประสบการณ์ใช้งานจริงของ FP Markets ในมุมเทรดเดอร์ไทย
ในเชิงภาพรวม เสียงรีวิวจากต่างประเทศมักยกให้ FP Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์สเปรดต่ำสำหรับสาย Scalping และ EA ด้วยสเปรด Raw ECN ที่เริ่มจาก 0.0 pip และค่าคอมมิชชันที่แข่งขันได้ รวมถึงความเสถียรของเซิร์ฟเวอร์และการเชื่อมต่อกับผู้ให้สภาพคล่องหลายราย
สำหรับเทรดเดอร์ไทย จุดที่ได้เปรียบคือมีเว็บไซต์และคอนเทนต์ภาษาไทย รวมถึงช่องทางฝาก THB ทำให้การเริ่มต้นใช้งานไม่ “น่ากลัว” เท่าโบรกเกอร์ที่มีแต่ภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม การซัพพอร์ตภาษาไทยอาจไม่ได้ครอบคลุม 24 ชั่วโมงทุกช่องทางเหมือนโบรกเกอร์ที่โฟกัสตลาดไทยเต็มตัว ดังนั้นคนที่เทรดหนัก ๆ ช่วงดึกหรือมีคำถามเชิงเทคนิคเฉพาะทาง อาจยังต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับทีมซัพพอร์ตต่างประเทศอยู่บ้าง
- สเปรดและค่าคอมโดยรวมอยู่ในระดับแข่งได้สำหรับสายต้นทุนต่ำ
- แพลตฟอร์มให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับคนที่ไม่อยากผูกกับ MT4/MT5 อย่างเดียว
- ส่วนเรื่องโบนัสและความ “ไทยจ๋า” อาจไม่จัดเต็มเท่าโบรกเกอร์ที่โฟกัสตลาดไทยโดยเฉพาะ
FP Markets เหมาะกับเทรดเดอร์ไทยแบบไหนในปี 2025
จากโครงสร้างบัญชี ต้นทุน และแพลตฟอร์มที่ให้บริการ FP Markets ดูจะเหมาะกับเทรดเดอร์ไทยที่มีประสบการณ์มาระดับหนึ่งแล้ว มากกว่ามือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องเลเวอเรจและต้นทุนต่อออเดอร์อย่างชัดเจน
- เทรดเดอร์สาย Scalping / EA ที่ต้องการสเปรดต่ำและค่าคอมชัดเจน
- ผู้ที่ชอบทดลองแพลตฟอร์มหลายแบบ ทั้ง MT4, MT5, cTrader และ TradingView ในโบรกเกอร์เดียว
- คนที่ต้องการฝาก–ถอน THB ได้สะดวก แต่ยอมรับได้ว่าโบรกเกอร์ไม่ได้มีใบอนุญาตในไทยโดยตรง
- นักลงทุนที่อาจขยายไปเทรดหุ้น/CFD ผ่าน Iress ในอนาคต โดยเริ่มจากฟอเร็กซ์บน MT4/MT5 ก่อน
- มือใหม่ 0 พื้นฐานที่ต้องการโบรกเกอร์มีคอร์สสอนภาษาไทยครบชุด
- เทรดเดอร์ที่เน้นโบนัสไม่ต้องฝากหรือโบนัสเงินฝากเปอร์เซ็นต์สูงเป็นหลัก
- คนที่ต้องการโบรกเกอร์มีสถานะใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับของไทยเอง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ FP Markets
สรุปรีวิว FP Markets ปี 2025 สำหรับเทรดเดอร์ไทย
ในปี 2025 FP Markets ยังคงรักษาภาพของโบรกเกอร์สเปรดต่ำที่มีแพลตฟอร์มให้เลือกหลากหลาย อยู่ภายใต้การกำกับจากหลายหน่วยงานต่างประเทศ และรองรับตลาดเอเชียรวมถึงไทยทั้งในแง่ภาษาและช่องทางฝาก–ถอน จุดแข็งคือบัญชี Raw ECN ที่เหมาะมากสำหรับสายต้นทุนต่ำและผู้ใช้ EA ส่วนบัญชี Standard ก็เป็นตัวเลือกที่เข้าใจง่ายสำหรับคนที่ไม่อยากคิดเรื่องค่าคอมมิชชันแยกต่างหาก
FP Markets อาจไม่ได้ตอบโจทย์เทรดเดอร์ไทยทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนที่ให้ความสำคัญกับโบนัสหรืออยากได้โบรกเกอร์ที่ “ไทยจ๋า” แต่ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับต้นทุน แพลตฟอร์ม และคุณภาพการส่งคำสั่ง FP Markets ก็เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่ควรลองเปิดบัญชีเงินจริงขนาดเล็กเพื่อทดสอบด้วยตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจว่าจะย้ายหรือกระจายพอร์ตเข้ามามากน้อยแค่ไหน
